วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2550

จดหมายของคุณมยุรี : ขอคำแนะนำเรื่องไปตามหาน้องที่ไต้หวัน

สวัสดีค่ะ
ดิฉันชื่อมยุรี สมอินทร์ (แดง) เป็นพี่สาวคนโตของอู๊ด ขออนุญาตแจ้งสถานการณ์เพื่อคำปรึกษาและความช่วยเหลือในการตามหาน้องชายดังนี้

ล่าสุด เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการตามหาอู๊ด ทางครอบครัวจึงได้คุยกันว่า เราจะรอฟังข่าวจากทางไต้หวันจนถึงวันหยุดปีใหม่ ซึ่งถ้าถึงเวลานั้นยังไม่พบตัว ดิฉันกับน้องชายอีกคน(อ๊อด-ประเสริฐ สมอินทร์) ก็จะเดินทางไปไต้หวันเพื่อตามหาน้องชายของเราเอง ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเพื่อวางแผนเตรียมตัวก่อนเดินทาง จึงขอคำแนะนำจากหลายๆ ท่าน ดังนี้

1. เราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง เพื่อมาทำหน้าที่ล่ามให้เรา (เรามีงบประมาณจำกัด)

2. การตามหาควรจะเป็นลักษณะใดบ้าง เช่น เดินเพื่อแจกใบปลิว (ซึ่งมีรูป และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ) ประกาศผ่านทางสื่อมวลชน (เช่น หนังสือพิมพ์, โทรทัศน์)

3. งบประมาณที่ต้องเตรียมไว้สำหรับเวลา 7 วัน คือเท่าใด(โดยประมาณ) เนื่องจากในการเดินทางครั้งนี้เราจำเป็นต้องประหยัด เพราะต้องการเก็บเงินไว้สำหรับกรณีที่ทำทุกหนทางแล้ว ยังหาอู๊ดไม่เจอ จะได้มีเงินเหลือพอที่จะจ้างนักสืบ หรือลงโฆษณา รวมทั้งให้รางวัลแก่คนที่พบหรือแจ้งเบาะแสในการติดตาม

คุณพ่อบอกว่า ท่านเก็บเงินที่อู๊ดทำงานส่งมาให้รวมได้ประมาณ 1 แสนบาทแล้ว ซึ่งขอแบ่งไว้ทำบุญสองหมื่น (ตามความเชื่อ คือเพื่อให้สามารถพบอู๊ดได้เร็วขึ้น) ที่เหลือจะยกให้เป็นค่าใช้ในการติดตามน้องกลับมา แต่ดิฉันกับอ๊อดไม่ต้องการใช้เงินของน้อง จึงขอออกค่าใช้จ่ายในการไปไต้หวันกันเอง ส่วนเงินของอู๊ดนั้นเราจะเก็บไว้ใช้จ่ายในกรณีที่จำเป็นจริงๆ และเรามีเงินเหลือไม่พอ เช่น เพื่อให้เป็นรางวัลแก่คนแจ้ง เพราะเราต้องการน้องกลับมามากกว่าที่จะเก็บเงินของเขาเอาไว้ โดยที่เขาอาจไม่มีโอกาสใช้มัน

เราทราบดีว่าการตัดสินใจว่าไปไต้หวันกันเองนั้น อาจจะมีความหวังไม่มากนักว่าจะได้เจอน้อง แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราสองคนซึ่งเป็นพี่อยากจะทำเพื่อเขา แม้เงินที่จ่ายไปอาจไม่คุ้มค่าอะไรหากไม่ได้พบอู๊ด เราก็จะขอลองทำ เพราะเรารู้สึกว่าไม่สามารถทนอยู่เฉยๆ ทางนี้เพื่อรอความหวังจากคนอื่นๆ เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไปแล้ว เราควรต้องลงมือทำเองบ้าง

เราไม่ทราบว่าการไปตามหาน้องครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เราก็จะทำเพื่อเขา เราอยากให้ทุกคนรู้ว่า แม้อู๊ดจะเป็นเพียงผู้ใช้แรงงาน ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ชีวิตของเขาก็มีความสำคัญ

เขาคือคนสำคัญที่สุดในครอบครัวของเรา และมีความหมายต่อชีวิตต่อจิตใจของพ่อแม่และพี่สาวพี่ชายของเขามาก

เราบอกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องที่นั่นได้ทราบด้วยว่า เขาควรเอาใจใส่ชีวิตของแรงงานไทยเช่นเดียวพลเมืองไต้หวัน

ตอนนี้ดิฉันกังวลมาก เป็นห่วงน้องมาก แต่ก็รู้สึกว่ายังมองไม่เห็นทาง ยังไม่ทราบควรทำอย่างไรดี และไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร จึงอยากขอความกรุณาท่านใดที่มีข้อมูล หรือคำแนะนำ ได้โปรดช่วยคิดหาทางออกให้ด้วยค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ
มยุรี เก่งเกตุ

23 ธันวาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น: